วันศุกร์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2556

กำแพงเมืองเก่า นครศรีธรรมราช

กำแพงเมืองเก่า นครศรีธรรมราช 

     กำแพงเมืองนครศรีธรรมราช เป็นเครื่องแสดงถึงความเก่าแก่ ความแข็งแกร่ง ความเจริญรุ่งเรือง และ ประวัติศาสตร์อันยาวนาน กำแพงเมืองนครศรีธรรมราชตั้งอยู่ริมคลอง หน้าเมือง ถนน มุมป้อม อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช การ สร้าง ปรากฏหลักฐาน จากตำนานเมืองนครศรีธรรมราชว่าสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช เมื่อตั้งเมืองขึ้นที่ หาด ทรายแก้ว แล้วจึงสร้างกำแพง เมืองเป็นกำแพงดิน มีคูล้อมรอบสันนิษฐานว่า มีการบูรณะกำแพง เมืองส่วนต่างๆ กันมาหลายครั้งทุกครั้ง คง พยายามรักษา แนวกำแพงเดิมไว้

กำแพงเมืองเก่า นครศรีธรรมราช

     ใน พ.ศ.1950 สมเด็จพระราเมศวรแห่งกรุงศรีอยุธยาตีล้านนาไทยได้ได้กวาดต้อนผู้คนมาไว้ที่เมืองนครศรีธรรมราช ชาวล้านนาไทยจึงนำเอาแบบอย่างการ สร้างกำแพงเมืองมาจากเมืองเชียงใหม่ มาซ่อมกำแพงเมืองนครศรีธรรมราช โดยทำเป็น กำแพงแบบปักเสาพูนดิน ในราว พ.ศ. 2100 เมื่อชาวโปรตุเกสนำวิธีการสร้างแบบก่ออิฐ และตั้งฐานปืนใหญ่เข้ามากำแพง เมืองนครศรีธรรมราช ได้ถูดดัดแปลงเป็นกำแพงก่ออิฐขึ้นเพื่อให้เป็นป้อมปราการที่แข็งแรง

     ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช นายช่างวิศวกรและสถาปนิก ของฝรั่งเศสเข้ามาเมืองไทย จึงมีการสร้าง กำแพงเมืองตามแบบ ชาโต (Chateau) กำแพงเมืองนครศรีธรรมราชที่ เห็นอยู่ในปัจจุบัน จึงเป็นกำแพงเมืองที่สร้าง ขึ้นสมัยพระนารายณ์มหาราชในสมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยซึ่งตรง กับสมัยที่พระยานครศรีธรรมราช(พัฒน์) ครองเมืองนครศรีธรรมราช ได้มี การซ่อมกำแพงอีกครั้ง

     เจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) ครั้งเป็นพระยาสุขุมนัยวินิต ข้าหลวง สมุหเทศาภิบาล สำเร็จราชการมณฑลนครศรีธรรมราช สั่งให้รื้อกำแพง เมืองซึ่งชำรุดแต่ยังคงเห็นรูปทรงและใบ เสมาชัดเจน เอาอิฐ มาทำถนนที่เลียบริมกำแพงด้านในทุกด้าน

     ปัจจุบันกรมศิลปากรได้ทำการซ่อมกำแพงด้านทิศเหนือเพียงบางส่วน ใบเสมาและแนวป้อมจึงยังคงปรากฏให้เห็น ส่วนด้านอื่นๆ นั้น พังทลายเห็นเพียงซากอิฐหรือดินเท่านั้นกำแพงเมืองนครศรีธรรมราช เป็นเครื่องแสดงถึงความเก่าแก่ ควนแข็งแกร่ง ความ เจริญรุ่งเรือง และประวัติศาสตร์อันยาวนาน
กำแพงเมืองเก่า นครศรีธรรมราช

กำแพงเมืองนครศรีธรรมราช มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีอาณาเขตดังนี้
     1.ด้านทิศเหนือ กว้าง 11 เส้น 10 วา ปัจจุบันแนวซากกำแพงด้านนี้ ทิศตะวันออก จากวัดมุมป้อม ทิศตะวันตกจดมุม ของเรือน จำกลางนครศรีธรรมราช มีคลองหน้าเมืองเป็นคูเมือง
     2.ด้านทิศใต้ กว้าง 11 เส้น 10 วาปัจจุบันแนวซากกำแพงเมืองด้าน นี้ ทิศตะวัน ออกจากโรงเรียอนุบาลโสภณวิทยา โรงเรียนเทคนิคพานิชยการโสภณ ทิศ ตะวันตกจดหัวท่า มีคลองป่าเหล้าเป็นคูเมือง
     3. ทิศตะวันออก จากโรงเรียอนุบาลโสภณวิทยา โรงเรียนเทคนิคพานิชยการโสภณ  ทิศตะวันตกจดหัวท่า มีคลองป่าเหล้าเป็นคูเมือง
     4.ด้านทิศตะวันออก ยาว 55 เส้น 5 วา ปัจจุบันแนวซากกำแพงเมืองด้านนี้ ทิศเหนือ จากวัดมุมป้อม ทิศใต้จดโรงเรียนอนุบาลโสภณวิทยา โรงเรียนเทคนิคพานิชยการโสภณ  คูเมืองด้านนี้ตื้นเขินเป็นส่วนใหญ่ประชาชนได้สร้างบ้านเรือนอยู่อาศัย
     5.ด้านทิศตะวันตก ยาว 55 ส้น 5 วา ปัจจุบันแนวซากกำแพงเมืองด้านนี้ ทิศเหนือจากมุมเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ทิศใต้จดหัวท่า มีคลองจากหัวท่า มาตามแนวกำแพงมาเลี้ยวขาวที่มุมเรือนจำเป็นคลองหน้าเมือง เป็นคูเมือง

เว็บไซต์ Lucky1st.com เว็บให้บริการ คาสิโนออนไลน์ และ พนันบอลออนไลน์ ที่ทุกท่านสามารถเชื่อมั่นได้ว่าจะได้รับเงินสดทันที 100% เมื่อท่านแจ้งขอถอนเงินออก รวดเร็วทันใจ ซื่อสัตย์ ยุติธรรม ชัดเจน ท่านสามารถเกมส์ผ่านทางบริการของเราได้ที่ www.lucky1st.com :: 084-459-9970,087-999-4786 บริการ 24 ชม.

วันพฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2556

พายเรือ...ล่องแก่ง...ชมธรรมชาติ...ที่...คลองกลาย

       "คลองกลาย" สายน้ำที่ก่อกำเนิดมาจากผืนป่าต้นน้ำบนเทือกเขาสูงในเขตป่ากรุงชิง อุทยานแห่งชาติเขาหลวง และเขตอุทยานแห่งชาติเขานัน อันเป็นเทือกเขาเดียวกันกับเขาหลวง

ล่องแก่ง คลองกลาย

        เป็นอีกหนึ่งสายน้ำที่มีความลงตัวทางธรรมชาติในการจัดทำเส้นทางล่องแก่งชมธรรมชาติด้วยเรือยางหรือเรือคายัค โดยเส้นทางในการล่องแก่งจะมี 2 ระยะ คือ “ปากคลองพิตำ-ลานหินดาน” ระยะทาง 2.5 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง และ “ปากคลองพิตำ-บ้านทุ่งใน” ระยะทาง 6 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง

ล่องแก่ง คลองกลาย

      สภาพแก่งและสายน้ำทั้งสองระยะจะมีขนาดที่ไม่ใหญ่และมีความยากของแก่งอยู่ที่ระดับ 1-3 เหมาะกับการใช้เรือยางขนาดเล็กหรือเรือคายัคช่วงแรกกระแสน้ำจะยังไม่แรง ปล่อยให้ได้ลัดเลาะไปตามโขดหินและร่องผาเพลิดเพลินไปกับการมองน้ำ มองฟ้า ชมทัศนียภาพสองข้างลำน้ำที่เต็มไปด้วยป่าดงดิบที่เขียวชอุ่มตลอดปี ก่อนที่จะได้สนุกสนานเร้าใจกับแก่งมากมาย เช่น “แก่งหินหมอน” “แก่งชองปืน” “แก่งประ” “แก่งยาหนัด” และแก่งน้อยใหญ่อีกมากมาย โดยจะมีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยตลอดลำน้ำเป็นระยะๆ

ล่องแก่ง คลองกลาย

    การเดินทาง
      จากตัวเมืองนครศรีธรรมราชไปตามทางหลวงหมายเลข ๔๐๑ ถึงแยก อ.ท่าศาลา เลี้ยวซ้ายไปตามเส้นทางสาย ๔๑๔๐ ถึงสามแยกกิ่ง อ.นบพิตำ ระยะทางราว ๖๐ กิโลเมตร จากนั้นแยกขวาไปตามเส้นทางสายบ้านปากลง จนถึงสามแยกห้วยพานระยะทาง ๑๖ กิโลเมตร แล้วแยกซ้ายเข้าหมู่บ้านนบพิตำ ระยะทางประมาณ ๘ กิโลเมตร จะถึงจุดเริ่มการล่องแก่ง

ล่องแก่ง คลองกลาย


      ขอขอบคุณ เว็บไซต์ Lucky1st.com เว็บให้บริการ บ่อนพนันออนไลน์ บาคาร่าออนไลน์ สมัครเล่นบาคาร่า  เก็นติ้งคลับ ที่ให้การสนับสนุนบล็อกแห่งนี้ตลอดมา
      Lucky1st.com   Call Center ::  084-459-9970,087-999-4786 บริการ 24 ชม.

วันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

น้ำตกพรหมโลก...คนรักธรรมชาติต้องไปสักครั้งหนึ่ง


       หากคุณเป็นอีกคนที่รักการเที่ยวน้ำตก แน่นอนว่า "น้ำตกพรหมโลก" ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่ามาเยือนเช่นกัน โดยน้ำตกนั้นตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของตำบลพรหมโลก อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช น้ำตกแห่งนี้นับว่าเป็นน้ำตกที่มีความสวยงาม โดยขนาดใหญ่และสูงมาก เมื่อเทียบกับน้ำตกแต่ละแห่งภายในจังหวัด

       น้ำตกพรหมโลก เป็นน้ำตกที่มีจำนวนชั้นทั้งหมด 50 ชั้น แต่มีเพียง 4 ชั้นเท่านั้นที่เปิดให้ท่องเที่ยวได้ นั่นคือ หนานบ่อน้ำวน หนานวังไม้ปัก หนานวังหัวบัว และหนานวังอ้ายแล น้ำที่ไหลผ่านชั้นน้ำตกกระทบกับชั้นก้อนหิน ก่อให้เกิดเสียงแห่งธรรมชาติที่ก้องกังวานไปทั่ว สายน้ำนี้จะไหลผ่านหมู่บ้าน ลงสู่คลองท่าแพ และบรรจบที่แม่น้ำปากพูนที่อ่าวไทย


       นอกจากนี้แล้ว ในปี พ.ศ. 2502 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระ บรมราชินีนาถ ได้เสด็จประพาสน้ำตกแห่งนี้ และทรงจารึกพระปรมาภิไธยย่อ “ภ.ป.ร.” และ “ส.ก.” ไว้ที่หน้าผาน้ำตกชั้นที่ 1 (หนานวังน้ำวน)

       การเดินทาง : ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4016 ผ่านนครศรีธรรมราช-พรหมคีรี ถึงกิโลเมตรที่ 20 เจอทางแยกเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวง 4132 จากหน้าที่ว่าการอำเภอพรหมโลกใช้ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร


   สมัครคาสิโนออนไลน์ สมัครแทงบอล แทงบาคาร่า เว็บแทงบอล สมัครเข้าเล่น บาคาร่าออนไลน์ เริ่มที่ 500 เลือก สมัครเล่นคาสิโน ที่เป็นที่นิยม เล่นบาคาร่าผ่านเว็บ ที่นี่ บริการ 24 ชม.

 Lucky1st.com   Call Center ::  084-459-9970,087-999-4786  ติดต่อแผนกลูกค้าสัมพันธ์ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ยินดีรับใช้ เต็มใจบริการ

วันศุกร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2556

ลุงสุชาติ ทรัพย์สิน...ศิลปินนักแกะหนังตะลุงแห่งเมืองนคร

       บ้านหนังตะลุงสุชาติ ทรัพย์สิน ในซอยศรีธรรมโศก 3 โดยลุงสุชาติ ทรัพย์สิน เป็นศิลปินหนังตะลุงและช่างทำรูปหนังตะลุงฝีมือดีเยี่ยมของเมืองนครศรีธรรมราช ที่ริเริ่มและสืบทอดวัฒนธรรมการทำตัวหนังตะลุง รวมไปถึงการเชิดหนังตะลุงจนที่เป็นที่ยอมรับในระดับชาติและนานาชาติ ทั้งยังทำนุบำรุงความเป็นไทยคงใช้เครื่องดนตรีไทยที่เป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมของชาติไทยโดยได้รับคัดเลือกให้เป็นศิลปินท้องถิ่นผู้ซึ่งได้รับรางวัลยอดเยี่ยมอุตสาหกรรมท่องเที่ยว (Thailand Tourism Awards)ประจำปี 2539 รางวัลดีเด่นประเภทวัฒนธรรมและโบราณสถาน

บ้านหนังตะลุงสุชาติ

       บ้านหนังตะลุงสุชาติ เป็นแหล่งผลิตและจำหน่ายตัวหนังตะลุงและหนังใหญ่ อีกทั้งยังมีการแสดงในลักษณะสาธิตในบริเวณบ้านหนังตะลุง นอกจากนี้ยังได้แบ่งพื้นที่เพื่อจัดเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงเครื่องมือเครื่องใช้พื้นบ้านและพิพิธภัณฑ์หนังตะลุงนานาชาติ

สุชาติ ทรัพย์สิน

       คุณลุงสุชาติ ทรัพย์สิน เกิดเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2481 ที่บ้านสระแก้ว เลขที่ 134 หมู่ที่ 5 ตำบลสระแก้ว อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช สำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนวัดสระแก้ว และได้เรียนวิธีการแกะหนังตะลุงจากนายทอง หนูขาว ซึ่งเป็นช่างแกะหนังตะลุงฝีมือดีของจังหวัดนครศรีธรรมราช จนมีความสามารถในการแกะหนังตะลุงและหนังใหญ่ได้เป็นอย่างดีและได้เล่นหนังตะลุงด้วยสุชาติ ทรัพย์สิน มีความสามารถในการเขียนรูปและแกะตัวหนังตะลุงโดยสามารถออกแบบตัวหนังตะลุงและหนังใหญ่ได้ตามแบบ โบราณและแบบประยุกต์ได้อย่างสวยงาม นอกจากนี้สุชาติ ทรัพย์สินยังมีความสามารถในการเขียนกาพย์กลอนและบทหนังตะลุง

บ้านหนังตะลุงสุชาติ
บ้านหนังตะลุงสุชาติ

       บ้านของนายหนังสุชาติ ทรัพย์สิน ศิลปินนักแกะหนังตะลุงที่มีชื่อเสียงแห่งเมืองนคร กลิ่นหนังวัว เสียงเครื่องมือแกะหนังจากการทำงานของหนังสุชาติทุกๆวัน เป็นเสน่ห์ที่ทำให้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีชีวิต แรงบันดาลใจจากพระกระแสรับสั่งของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงขอบใจที่ รักษาของอันหมายถึงศิลปะการแกะหนังตะลุงไว้ให้ในคราวแสดงหนังตะลุงถวายช่วง ปีพุทธศักราช 2527

หนังตะลุง

       บ้านของลุงสุชาติ ทรัพย์สิน จะมีการสาธิตการทำตัวหนังตะลุง โดยคนในครอบครัวช่วยกันผลิตตัวหนังด้วย ทั้งแกะลงสีตัวหนังรูปแบบต่างๆและมีการสาธิตการเล่นหนังตะลุงให้กับผู้ที่สนใจด้วย บ้านหนังตะลุงสุชาติ ทรัพย์สิน ยังถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดนครศรีธรรมราช มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ นิยมมาดูศิลปะการแกะหนังตะลุงและการแสดงหนังตะลุงเป็นอันมาก การแกะหนังตะลุงและหนังใหญ่ของหนังสุชาติสามารถส่งขายได้เป็นสินค้าออกยังต่างประเทศที่สำคัญเพราะตัวหนังตะลุงมีคุณภาพสูง

บ้านหนังตะลุงสุชาติ 

       ขอขอบคุณ เว็บไซต์ Lucky1st.com เว็บให้บริการ คาสิโนออนไลน์ บาคาร่าออนไลน์ สมัครเล่นบาคาร่า ที่ให้การสนับสนุนบล็อกแห่งนี้ตลอดมา
      Lucky1st.com   Call Center ::  084-459-9970,087-999-4786 บริการ 24 ชม.

เขาหลวง..หลากหลายทั้งพืชพรรณและสัตว์ป่า

       อุทยานแห่งชาติเขาหลวง มีเนื้อที่ประมาณ 570 ตารางกิโลเมตร ถูกประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2517 ประกอบด้วยเทือกเขาที่สลับซับซ้อน มียอดเขาหลวงเป็นยอดเขาสูงสุดประมาณ 1,835 เมตรจากระดับน้ำทะเลซึ่งสูงที่สุดในภาคใต้ เป็นแหล่งของต้นน้ำลำธารและคลองต่างๆ กว่า15สายมีสภาพเป็นป่าดงดิบชื้นและป่าดิบเขา


       เส้นทางการเดินในอุทยานเป็นวงรอบมีธรรมชาติที่สวยงามและมีความหลากหลายทางชีวภาพมีพืชและสัตว์ที่หายากอยู่มากมาย โดยเฉพาะป่าเฟิร์นโบราณและกล้วยไม้หายากนานาชนิดของโลก เช่น มหาสดำ หรือเฟิร์นต้นที่มีลักษณะของลำต้นที่สูงใหญ่กว่า 15-20 เมตร มีแผ่นใบสีเขียวสดรูปขนนกขนาดใหญ่แผ่ออกจากปลายยอดชวนให้จินตนาการถึงบรรยากาศยุคจูแรสสิกซึ่งไดโนเสาร์ยังครองโลกอยู่ ป่าเขาหลวงมีเฟิร์นชนิดนี้อยู่อย่าหนาแน่นจนได้รับการขนานนามว่าหุบผามหาสดำอันแสนอัศจรรย์


       นอกจากนี้ยังพบเฟิร์นโบราณที่วิวัฒนาการมานานกว่า 180-200 ล้านปี อย่างบัวแฉกและบัวแฉกใบมน ยิ่งกว่านั้นป่าเขาหลวงยังเป็นแดนสวรรค์ของกล้วยไม้เมืองไทยเพราะที่นี่ถือเป็น "สุดยอดแห่งกล้วยไม้เมืองใต้" เนื่องจากสามารถพบกล้วยไม้ป่าดงดิบของภูมิภาคอินโด-มลายันแทบทุกสกุล รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 300 ชนิด โดยเฉพาะกล้วยไม้ถิ่นชนิดใหม่ของโลกและกล้วยไม้ชนิดหายาก เช่น สิงโตอาจารย์เต็ม เอื้องคีรีวง และสิงโตใบพัดเขาหลวง เป็นต้น กล้วยไม้เหล่านี้ล้วนเป็นชนิดพันธุ์ที่ไม่พบในที่อื่นใดในโลกอีกนอกจากผืนป่าเขาหลวงเท่านั้น



       ป่าเขาหลวงแห่งนี้จึงถือเป็นผืนป่าดงดิบที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์และควรหาโอกาสเดินทางไปศึกษาเพื่อเพิ่มพูนความรู้ให้งอกเงยต่อไป ช่วงเวลาที่เหมาะในการเดินทางมาท่องเที่ยวคือเดือนมกราคม-เดือนกรกฎาคม



หาดขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้ ดูโลมาสีชมพู

       อุทยานแห่งชาติหาดขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้ เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลอยู่ในการดำเนินการเพื่อประกาศจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติตามกฎหมาย โดยได้สำรวจและเก็บข้อมูลเบื้องต้นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2533 โดยได้กำหนดที่ดินบางส่วนของป่าคลองธง คลองเหรง ป่าเขาออก ป่าเขาท้องโหนด ป่าเขาไชยสน ป่าเลนคลองขนอม เขาฝีหาย ป่าเขาวัง ป่าเขากรด ป่าไชยคราม-วัดประดู่ ป่าเขาหัวช้าง และหมู่เกาะ 8 เกาะ ได้แก่ เกาะมัดแตง เกาะมัดโกง เกาะราบ เกาะหัวตะเข้ เกาะวังนอก เกาะวังใน เกาะน้อย และ เกาะท่าไร่ ในท้องที่อำเภอสิชล อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช ท้องที่อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี


       สภาพโดยทั่วไปเป็นภูเขามีสภาพป่าที่สมบูรณ์มาก เป็นป่าดิบชื้น จึงเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารหลายสาย ซึ่งราษฎรนำน้ำมาใช้ในการอุปโภค-บริโภค และการเกษตรกรรมบางแห่งเป็นภูเขาหินปูน และป่าชายเลน ซึ่งยังคงสภาพที่สมบูรณ์และเป็นหมู่เกาะชายหาด


       จากการสำรวจพื้นที่จริง และสอบถามจากราษฎรในท้องถิ่น พบว่ามีสัตว์ป่าอาศัยอยู่หลายชนิด เช่น หมูป่า ลิง ค่าง กระรอก กระแต เลียงผา เก้ง หมีคน เสือ ชะนี (ซึ่งพบบ่อยมากและร้องได้ยินเสียงเกือบทุกวันบริเวณจุดชมวิวดาดฟ้า) สัตว์จำพวกนก เช่น เหยี่ยวรุ้ง นกชาปีไหน นกยางทะเล นกลุมพู เป็นต้น และบริเวณช่องรูเล็ต(รอยต่อระหว่าง อำเภอดอนสัก-อำเภอขนอม)ยังมีการพบว่ามีกุ้งมังกรอาศัยอยู่

       อีกหนึ่งจุดขายที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งคือในคลองขนอมจนถึงปากอ่าวที่มีโรงไฟฟ้าขนอมตั้งอยู่ มีประชากรของโลมาสีชมพูอาศัยอยู่ โลมาพวกนี้จะคุ้นชินกับชาวบ้านและชาวประมงแถบนี้มาก แค่ได้ยินเสียงเรือก็จะปรากฏตัว ว่ายน้ำมาให้เห็นใกล้ๆ นักท่องเที่ยวที่มาที่นี่จึงไม่ลืมที่จะล่องเรือไปตามคลองขนอมเพื่อชมโลมาสีชมพู